มรดกโลก World Heritage Site

มรดกโลก World Heritage Site


    มรดกโลก (ภาษาอังกฤษ: World Heritage Site ภาษาฝรั่งเศส Patrimoine Mondial) คือสถานที่ อันได้แก่ ป่าไม้ ภูเขา ทะเลสาบ ทะเลทราย อนุสาวรีย์ สิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมไปถึงเมือง ที่คัดเลือกโดยองค์การยูเนสโก UNESCO (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงคุณค่าของสิ่งที่มนุษยชาติ หรือธรรมชาติได้สร้างขึ้นมา และควรจะปกป้องสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร เพื่อให้ได้ตกทอดไปถึงอนาคต

     มรดกโลกแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ มรดกทางวัฒนธรรม (Cultural Heritage) และ มรดกทางธรรมชาติ (Natural Heritage) ซึ่งในอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกได้ให้คำนิยามไว้ว่า


              - มรดกทางวัฒนธรรม หมายถึง สถานที่ซึ่งเป็นโบราณสถานไม่ว่าจะเป็นงานด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม หรือแหล่งโบราณคดีทางธรรมชาติ เช่น ถ้ำ หรือกลุ่มสถานที่ก่อสร้างยกหรือเชื่อมต่อกันอันมีความเป็นเอกลักษณ์ หรือแหล่งสถานที่สำคัญอันอาจเป็นผลงานฝีมือมนุษย์หรือเป็นผลงานร่วมกัน ระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์ รวมทั้งพื้นที่ที่เป็นแหล่งโบราณคดี ซึ่งสถานที่เหล่านี้มีคุณค่าความล้ำเลิศทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ มนุษยวิทยา หรือวิทยาศาสตร์
               -  มรดกทางธรรมชาติ หมายถึง สภาพธรรมชาติที่มีลักษณะทางกายภาพและชีวภาพอันมีคุณค่าเด่นชัดในด้านความล้ำ เลิศทางวิทยาศาสตร์ หรือเป็นสถานที่ซึ่งมีสภาพทางธรณีวิทยาและภูมิประเทศที่ได้รับการวิเคราะห์ แล้วว่าเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพันธุ์พืชและสัตว์ ซึ่งถูกคุกคาม หรือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของพืชหรือสัตว์ที่หายาก เป็นต้น


ขั้นตอนการสมัครสมาชิกเป็นมรดกโลก
   ประเทศที่ต้องการเสนอชื่อสถานที่ในประเทศของตนให้ได้ รับการพิจารณาให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อันดับแรกจะต้องจัดทำบัญชีรายชื่อสถานที่ที่มีความสำคัญทางธรรมชาติและ วัฒนธรรมทั้งหมดภายในประเทศของตน บัญชีนี้จะเรียกว่า บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะมีเพียงสถานที่ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีนี้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ได้รับการ เสนอชื่อ ขั้นต่อมา ประเทศนั้นๆจะต้องเลือกรายชื่อสถานที่ที่ต้องการเสนอชื่อมาจากบัญชีรายชื่อ เบื้องต้น เพื่อจัดทำเป็นแฟ้มข้อมูล (Nomination File) โดยทางศูนย์มรดกโลกอาจให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการจัดทำแฟ้มข้อมูลนี้
               เมื่อถึงขั้นตอนนี้ แฟ้มข้อมูลจะถูกตรวจสอบ   และพิจารณาจากองค์กรที่ปรึกษา  ได้แก่ “สภาระหว่างประเทศว่าด้วยโบราณสถานและแหล่งโบราณคดี” (The International Council on Monuments and Sites หรือ ICOMOS) และ "ศูนย์ระหว่างชาติว่าด้วยการศึกษา การอนุรักษ์ และปฏิสังขรณ์สมบัติทางวัฒนธรรม" (The International Centre for the Study of the Preservation and Restoration of the Cultural Property หรือ ICCROM) ในส่วนของมรดกทางวัฒนธรรมและ "สหภาพการอนุรักษ์โลก" (The World Conservation Union หรือ IUCN) ในส่วนของมรดกทางธรรมชาติ แล้วทั้งสามองค์กรนี้จะยื่นข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการมรดกโลก ทางคณะกรรมการจะมีการประชุมร่วมกันปีละหนึ่งครั้ง เพื่อตัดสินว่าสถานที่ที่มีการเสนอชื่อแห่งใดบ้างที่ควรได้ขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก หรือทางคณะกรรมการอาจร้องขอให้ประเทศที่เสนอชื่อได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถาน ที่เพิ่มเติม โดยการพิจารณาว่าจะขึ้นทะเบียนสถานที่แห่งใดจะต้องมีลักษณะตามเกณฑ์มาตรฐาน ข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อ

มรดกโลกที่ขึ้นบัญชีเอาไว้ในขณะนี้


เพิ่มมาอีก 1 แห่ง คือ Papahānaumokuākea (USA)  
ชื่อ อ่านยาก ไม่ชำนาญด้านภาษาแปลกถิ่น เอาเป็นว่าไม่ขอแปลเป็นไทยละกัน เดี๋ยวจะผิดเพื้ยน โดยเป็นเขตมหาสมุทร ขนาด 250 กิโลเมตร ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของหมู่เกาะฮาวาย ด้านโบราณคดีเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานก่อนยุโรป ส่วนด้านธรรมชาติเป็นแนวทะเลน้ำลึก มีธนาคารปะการัง อนุรักษ์พันธุ์ปลาต่างๆมากมาย

มรดกโลกทางธรรมชาติ
1. China Danxia (China)
เป็น ลักษณ์ของผาสูงที่เกิดจะการยกตัวของเปลือกโลก และบริเวณนั้นยังเป็นหินทรายสีแดง ทำให้ยิ่งทวีความสวยงามเข้าไปอีก ส่วนอาณาเขตกว้างใหญ่มาก ครอบคลุม 6 บริเวณ Mountain Langshan และ Mountain Wanfoshan (Hunan), Mountain Danxiashan (Guangdong), Taining and Guanzhoushan (Fujian), Mountain Longhushan และ Guifeng (Jiangxi), Mountain Chishui (Guizhou), Fangyan และ Mountain Jianglangshan (Zhejiang)

2. Pitons, Cirques and Remparts of Reunion Island (France)

เป็น อุทยานแห่งชาติ ครอบคลุมมากกว่า 100,000 ไร่ ประกอบด้วยสอง ภูเขาไฟติดตั้งอยู่ในตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรอินเดีย โดยยอดภูเขาไฟสูงตระหง่านผนังใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของความหลากหลายพันธุ์พืช มีป่าฝนเขตร้อนป่าเมฆ

3. Phoenix Islands Protected Area (Kiribati)

หมู่ เกาะฟีนิกซ์ ในภาคกลางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกของเกาะ Gilbert โดยอาณาเขตอนุรักษ์นั้นครอบคลุอีก 8 เกาะเล็กๆ เป็นเขตแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ มีปะการังมากกว่า 120 ชนิด และสัตว์ทะเลกว่า 500 ชนิด จึงเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ

4. Putorana Plateau (Russian Federation)
 
พื้นที่ ของรัฐ Putoransky ตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงในภาคเหนือ ภาคกลาง ของไซบีเรีย ความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ป่าทุ่งทุนดราและระบบทะเลทรายอาร์กติกเป็นทะเลสาบน้ำเย็น และระบบแม่น้ำขนาดใหญ่ เส้นทางหลักของการคมนาคมและระบบนิเวศวิทยา และที่สำคัญระบบนิเวศแบบนี้กำลังหายากมากขึ้นเรื่อยๆ

5. Central Highlands of Sri Lanka (Sri Lanka)
 
ตั้ง อยู่บริเวณทางตอนใต้ เป็นแนวอนุรักษ์ป่าไม้ ซึ่งสูงถึง 2,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นเหมือนบ้านพิเศษของพืช และสัตว์ รวมถึงสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ต่างๆ โดยถือว่าเป็นจุดหนึ่งที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ

มรดกโลกทางวัฒนธรรม

1. Australian Convict Sites (Australia)
 
คุก และสถานกักกันในสมัยโบราณ ย้อนอดีตไปเมื่อตอนจักรวรรดิอังกฤษ ในดินแดนของออสเตรเลีย เมื่อราวๆ ศตวรรษที่ 18 และ 19 เป็นยุคการล่าอาณานิคม สถานที่แห่งนี้ที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะในแง่เป็นการลงโทษทั้งจำคุกและ การพัฒนาสมรรถภาพทางแรงงาน บังคับเพื่อช่วยสร้างอาณานิคม ประมาณว่าถ้านักโทษยังไม่อยากตาย ก็ต้องมาเป็นกรรมกร แรงงาน

2. São Francisco Square in the Town of São Cristovão (Brazil)
จตุ รัส São Francisco ในเมือง São Cristovão เป็นลานสี่เหลี่ยมล้อมรอบด้วยอาคารมากมาย ทั้งคริสตจักร และ บ้านที่เกี่ยวข้องในยุคประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกัน รอบสี่เหลี่ยมนี้ ภูมิทัศน์เมือง สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของเมืองตั้งแต่กำเนิดของ ที่ซับซ้อน เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมทั่วไปของคำสั่งทางศาสนาที่พัฒนาในภาคตะวันออก เฉียงเหนือของบราซิล

3. Historic Monuments of Dengfeng, in the "Centre of Heaven and Earth" (China)
 
เทือก เขาซงซานเป็นเทือกเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศจีน ทั้งในด้านของประวัติศาสตร์ ประกอบไปด้วยยอดเขาน้อยใหญ่จำนวน 72 ยอด วัดต่างๆ มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ นาฬิกาแดด, เรื่องของการยั่งรู้ ดินฟ้า โดยในเทือกเขาแห่งนี้เองก็มีวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก วัดเส้าหลิน เป็นวัดทางพระพุทธศาสนานิกายมหายานที่มีความเก่าแก่อายุมากกว่า 1,500 ปี เป็นแหล่งวิชาการต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน รวมทั้งได้รับการกล่าวขานในเรื่องของกระบวนท่าวิทยายุทธ เพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินเป็นอย่างมาก

4. Episcopal City of Albi (France)


แม่ น้ำธารในทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เมืองเก่า Albi แสดงถึงความรุ่งเรืองของยุคกลาง และสถาปัตยกรรมรอบเมือง โบสถ์ต่างๆ ที่มีพยานหลักฐานเบื้องต้นของการพัฒนาตั้งแต่ศตวรรษ 10 - 11 ยุคสงครามครูเสด มันกลายเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ภาพสถาปัตยกรรม การตกแต่ง หรือในสไตล์วิศกรรมที่ไม่ซ้ำใคร อาคารก่อสร้างจากอิฐท้องถิ่นที่มีลักษณะสีแดงและสีส้ม บ่งบอกย้อนไปถึงยุคในอดีต

5. Jantar Mantar (India)

สถาน ที่ของดาราศาสตร์สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 มีสิ่งปลูกสร้างมากมายหลายแบบ โดยใช้อิฐในท้องถิ่นสร้างอย่างถาวร แต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์ ลักษณะเฉพาะของตนเอง ออกแบบสำหรับการสังเกตตำแหน่งทางดาราศาสตร์ด้วยตาเปล่า ซึ่งที่แห่งนี้ยังบอกถึงการรวมหลายๆ สถาปัตยกรรม และนวัตกรรมเครื่องมือ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด, มากที่สุดและเก็บรักษาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การดูดาวของอินเดีย

6. Sheikh Safi al-Din Khānegāh and Shrine Ensemble in Ardabil (Islamic Republic of Iran)

สร้าง ขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 16 และศตวรรษที่ 18 เป็นสถานที่พักผ่อนจิตใจ รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบอิหร่าน ผู้ สร้างใช้ประโยชน์จากพื้นที่ ห้องสมุด มัสยิด, โรงเรียน, สถานที่เก็บศพ, แท้งค์น้ำ, ห้องพยาบาล, ห้องครัว, เบเกอรี่และสำนักงาน ภายในยังมีซุ้มประดับตกแต่งอย่างสวยงาม หรูหรา และการเก็บรักษาของเก่า ยังคงมีมูลค่า รูปแบบการเก็บของหายาก เกี่ยวกับองค์ประกอบสถาปัตยกรรมยุคกลางอิสลาม
7. Tabriz Historical Bazaar Complex (Islamic Republic of Iran)


สถาน ที่ในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยโบราณ ตลาดแห่งนี้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่สุด อิฐโครงสร้างอาคารบ่งบอกถึงสไตล์ ตลาดแห่งนี้ได้เจริญรุ่งเรืองและมีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 13 จนกระทั้งถึงช่วงศตวรรษที่ 16 แต่ยังคงความสำคัญเป็นศูนย์กลางการค้าจนถึงสิ้นศตวรรษที่ 18 โดยมีการขยายตัวของชาวเติร์ก เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สมบูรณ์ที่สุดของระบบการค้าและวัฒนธรรมดั้งเดิมของ อิหร่าน

8. Bikini Atoll, Nuclear Test Site (Marshall Islands)

ยุค สงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐอเมริกาตัดสินใจที่จะกลับมาทดสอบนิวเคลียร์ในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณ Bikini Atoll ในหมู่เกาะมาร์แชลล์ การทดสอบนิวเคลียร์ได้ดำเนินในปี 1946 - 1958 โดยการทดสอบครั้งแรกเมื่อปี 1946 พิษสงความร้ายของมันยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิด 7000 เท่า ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบธรณีวิทยาและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของเกาะ สุขภาพของบรรดาผู้ที่ได้สัมผัสกับรังสี เกาะแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งนิวเคลียร์ สภาพของการขัดแย้งและสันติภาพของโลก

9. Camino Real de Tierra Adentro (Mexico)

 
ถนน สายสำคัญ หรือที่เรียกว่าเส้นทางเงิน เส้นทางทอง อาณาเขตกว้างไกลตั้งแต่เม็กซิโกซิตี้ ที่ประเทศเม็กซิโก ยาวจนข้ามแดนอเมริกา สุดที่ ซานตา เฟ่ ระยะทางกว่า 2600 กิโลเมตร ถนนนี้ถูกใช้เป็นเส้นทางการค้ากว่า 300 ปีจากช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ถึง 19 แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ แต่ยังคงมีร่องรอยของสังคม วัฒนธรรม และศาสนา โดยเฉพาะระหว่างวัฒนธรรม สเปน และ Amerindian

10. Prehistoric Caves of Yagul and Mitla in the Central Valley of Oaxaca (Mexico)

สถาน ที่นี้ตั้งอยู่บนผาลาด เหนือหุบเขา Tlacolula ประกอบด้วย สองโบราณคดีก่อนฮิสแปและยุคถ้ำก่อนประวัติศาสตร์ มีหลักฐานทางโบราณคดีและหินศิลปะ ของการรวบรวม เร่ร่อน การล่า เกษตรกรเริ่มเกิดขึ้น ภูมิทัศน์วัฒนธรรมของถ้ำสมัยก่อนประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ และธรรมชาติที่ให้กำเนิด

11. Seventeenth-century Canal Ring Area inside the Singelgracht, Amsterdam (Netherlands)

คลอง ในเมืองประวัติศาสตร์อัมสเตอร์ดัม เป็นโครงการสำหรับเมืองใหม่ๆ สร้างเมื่อช่วงสิ้นยุค 16 เริ่มต้นศตวรรษที่ 17  ประกอบด้วยเครือข่ายของคลองไปทางทิศตะวันตกและทางใต้ของเมืองเก่า ประวัติศาสตร์ยุคกลางและจุดเชื่อมต่อที่ล้อมรอบเมืองได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยยังมีการออกแบบถึงระบบระบายน้ำในเมือง เป็นรูปแบบของการวางผังเมืองขนาดใหญ่ และทำหน้าที่เป็นเมืองอ้างอิงไปทั่วโลกจนกระทั่งศตวรรษที่ 19

12. Historic Villages of Korea: Hahoe and Yangdong (Republic of Korea)
 
หมู่ บ้านแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 - 15, Hahoe และ Yangdong เห็นเป็นสองตัวแทนหมู่บ้านตระกูลใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สาธารณรัฐเกาหลี รูปแบบและสถานที่ของพวกเขา ภูมิทัศน์โอบล้อมด้วยภูเขา ป่า หันออกสู่แม่น้ำและเขตเกษตร สะท้อนถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมขงจื๊อชนชั้นสูง ของราชวงศ์โชซอน (1392-1910) คนในหมู่บ้านนี้มีอยู่เพื่อ อุทิศทั้งร่างกายและจิตใจช่วยบำรุง อนรักษ์สภาพแวดล้อมของพวกเขา

13. At Turaif District in ad-Dir'iyah (Saudi Arabia)


ก่อ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ช่วงแรกของราชวงศ์ซาอุดิ สถาปัตยกรรมที่มีเฉพาะแถบคาบสมุทรอาหรับที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 บทบาททางการเมืองและศาสนาที่เพิ่มขึ้นและป้อมที่ at - Turaif กลายเป็นศูนย์กลางอำนาจชั่วคราว การแพร่กระจายของการปฏิรูปภายในศาสนามุสลิม ทรัพย์สินต่างๆ หลักฐานทางประวิติศาสตร์ยังคงอยู่ในพระราชวัง

14. Proto-Urban site of Sarazm (Tajikistan)


หลัก ฐานโบราณคดีการพัฒนา ตั้งถิ่นฐานในเอเชียกลางที่ 4 จาก BCE สหัสวรรษที่สิ้นสุดของสหัสวรรษที่ 3 BCE สถานที่ปรักหักพังแสดงการพัฒนาของต้น Proto กลายเป็นเมืองในภูมิภาคนี้ ศูนย์กลางของการตั้งถิ่นฐานนี้ เป็นหนึ่งในที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง ภูมิภาคตั้งอยู่ระหว่างภูเขาเหมาะแก่เลี้ยงปศุสัตว์ อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงการดำรงอยู่ของการค้าและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและความ สัมพันธ์ทางการค้ากับคนทั่วพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่กว้างขวาง

15. Imperial Citadel of Thang Long-Hanoi (Viet Nam)


ถูก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 โดย Viet Ly Dynasty เป็นเครื่องหมายความเป็นอิสระภาพของ เวียดนาม มันถูกสร้างบนซากของป้อมของจีน ช่วงศตวรรษที่ 7 ในกรุงฮานอยเป็นศูนย์อำนาจทางการเมืองในภูมิภาคเกือบ 13 ศตวรรษโดยไม่หยุดชะงัก โบราณคดีสะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

มรดกไทยที่ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกแล้ว


1.อุทยาน ประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ไทยที่ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534








2.แหล่งมรดกโลกสุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร ทั้ง 3 อุทยานประวัติศาสตร์นี้ได้ลงทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2534













3.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง เป็นแหล่งมรดกโลกของประเทศไทย โดยการลงทะเบียนของยูเนสโก ระหว่างวันที่ 9-13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ณ เมืองคาร์เทจ ประเทศตูนีเซีย 








อนุสาวรีย์สืบ นาคะเสถียร ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง 


4.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง บ้านเชียงจังหวัดอุดรธานี ได้จดทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535 ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 16 ที่เมืองแซนตาเฟ ประเทศสหรัฐอเมริกา





         

และสุดท้าย 5.มรดกโลก ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่  เป็น มรดกโลกแหล่งที่ 5 ของไทย และเป็นอันดับที่ 2 ของมรดกทางธรรมชาติไทย ได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 10-17 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ณ กรุงเดอแบน ประเทศแอฟริกาใต้













เครดิต www.kroobannok.com







ไทยถอนตัวจากอนุสัญญามรดกโลก





ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล อดีตที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญขององค์การยูเนสโกในเรื่องมรดกโลก กรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติ ๒ สมัย
โดย ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล
การ ที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส ได้ลาออกจากคณะกรรมการมรดกโลก หรือถอนตัวออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลก จะมีผลทางกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายภายในของประเทศสมาชิกหรือไม่เพียงไรนั้น ขึ้นอยู่กับข้อบทแห่งอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ค.ศ. ๑๙๗๒ ภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสนธิสัญญา ซึ่งปัจจุบันได้มีการประมวลไว้ในอนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ. ๑๙๖๙ มีผลบังคับกับรัฐที่ได้ให้สัตยาบันเป็นภาคีกว่าร้อยประเทศ และส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นข้อบทที่เป็นหลักกฎหมายระหว่างประเทศตามจารีตประเพณี และในทางปฏิบัติของอารยะรัฐแล้วเกือบทั้งหมด จึงมีผลบังคับในทางปฏิบัติกับรัฐสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งเป็นภาคีและไม่เป็นภาคีโดยสมบูรณ์แบบตามอนุสัญญากรุงเวียนนา
ในสาระสำคัญนั้น อนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ค.ศ. ๑๙๗๒ มีข้อบทที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเพิกถอน หรือถอนตัวจากการเป็นภาคีอนุสัญญา ตามข้อ ๓๕ วรรค ๑ ฉะนั้น จึงไม่มีปัญหาว่าผู้แทนไทยหรือหัวหน้าคณะผู้แทนไทยมีสิทธิอำนาจในการถอนตัว ตามอนุสัญญาหรือไม่เพียงใด
ปัญหาซึ่งอาจตามมาคือ การถอนตัวหรือเพิกถอนการเป็นภาคี หรือสมาชิกสภาพของรัฐภาคีของคณะกรรมการมรดกโลก และอนุสัญญามรดกโลก จะมีผลทางกฏหมายเมื่อใดหรือภายใต้เงื่อนไขประการใด การแสดงเจตนาย่อมมีผลทันทีที่ได้แสดงออก แต่ผลทางกฎหมายนั้น สมาชิกภาพของไทยในคณะกรรมการมรดกโลกยังคงเป็นเช่นเดิมต่อไปอีก ๑๒ เดือน หากจะพิจารณาในแง่อนุสัญญาพหุภาคีแล้ว จะเห็นได้ว่าเป็นการประกาศให้ภาคีอนุสัญญาอื่น ๆ ได้รับทราบ และคณะกรรมการมรดกโลกเองจะได้ปรับสถานภาพเกี่ยวกับสิทธิ และภาระหน้าที่ที่เกี่ยวกับประเทศไทยได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมสำหรับคณะ กรรมการและภาคีสมาชิกอื่น ๆ เพราะการถอนตัวย่อมกระทบกระเทือนสิทธิและหน้าที่ของสมาชิกอื่นด้วย ฉะนั้น การให้โอกาสสมาชิกอื่นทราบเพื่อปรับตัวหรือตั้งข้อสังเกต ทัดทาน เห็นชอบ โต้แย้ง หรือตั้งเงื่อนไขเกี่ยวกับผลกระทบ เป็นสิ่งที่สังคมประชาคมและประชาชาติยอมรับเป็นทางปฏิบัติระหว่างอารยะ ประเทศ
เหตุผลที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้อรรถาธิบายไว้นั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแพร่หลายทั่วไปในด้านความชัดเจน แต่ในแง่ของการเมืองภายในประเทศ การลาออกเป็นสิ่งที่ไทยพึงกระทำมานานแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากการเป็นสมาชิกหรือเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลก ประเทศสมาชิกต้องรับภาระชำระค่าบำรุงและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งไทยได้ประโยชน์เป็นนามธรรมเท่านั้น โดยได้ชื่อว่ามีสถานที่หลายแห่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อาทิ อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา สุโขทัย บ้านเชียง ทุ่งใหญ่นเรศวร ห้วยขาแข้ง และผืนป่าเขาดงพญาเย็น ฯลฯ โดยไทยได้ประโยชน์ในการเผยแพร่วัฒนธรรมซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของยูเนส โก
การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เป็นการขัดต่อวัตถุประสงค์หลักของยูเนสโกอย่างชัดเจน เนื่องจากยังมีปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งเป็นฝ่ายเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตีความเพื่อขยายผลคำพิพากษาศาล โลก พ.ศ. ๒๕๐๕ ซึ่งไทยไม่เห็นด้วยและคัดค้านมาโดยตลอด คำพิพากษาดังกล่าวประกอบด้วยคำพิพากษาหลัก และคำพิพากษาแย้งในสาระสำคัญของผู้พิพากษาถึงสามท่าน รวมทั้งคำพิพากษาเอกเทศของผู้พิพากษาอีก ๑ ท่าน ที่ไม่ควรถูกละเลยหรือมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจาก ฯพณฯ ถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือลงวันที่ ๖ กรกฎาคม ค.ศ.๑๙๖๒ ถึงนายอูถั่น ผู้รักษาการเลขาธิการสหประชาชาติ ที่ส่งเวียนให้ประเทศสมาชิกสหประชาชาติรับทราบโดยทั่วกันว่า ไทยไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลโลก เพราะขัดต่อสนธิสัญญา ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดต่อหลักความยุติธรรม พร้อมกับมอบหมายให้ข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้แทนไทยในคณะกรรมการที่หก (กฎหมาย) แถลงเพิ่มเติม ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญที่ ๑๗ ค.ศ. ๑๙๖๒ คำแถลงดังกล่าวมีความยาวประมาณ ๔๐ หน้ากระดาษ เป็นภาษาอังกฤษโดยมีล่ามทำหน้าที่แปลเป็นภาษาทำงานทางการของสหประชาชาติทุก ภาษา ทั้งนี้ ไม่ปรากฏว่ามีผู้แทนประเทศอื่นใดรวมทั้ง ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และกัมพูชา ตั้งข้อสังเกตหรือโต้แย้งแต่ประการใด
แม้จะไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาที่ไร้ความยุติธรรม ไทยก็ได้ปฏิบัติตามพันธะข้อ ๙๔ ของกฎบัตรสหประชาชาติอย่างครบถ้วน แต่คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น ธรรมนูญข้อ ๕๙ ของศาลฯ ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าไม่มีผลบังคับนอกจากประเทศคู่กรณี และจำกัดเฉพาะในกรณีพิพาทนั้นเท่านั้น ไม่ผูกพันประเทศอื่นหรือองค์การระหว่างประเทศใด ๆ หรือในข้อพิพาทอื่นใด จึงไม่ครอบคลุมไปถึงการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่ประการใด ฉะนั้น การขยายความเกินเลยขอบเขตคำพิพากษาเดิม เพื่อนำมาใช้อ้างอิงประกอบการพิจารณาการขึ้นทะเบียนย่อมไม่สามารถทำได้ ไทยจึงสมควรลาออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกโดยด่วน มิฉะนั้น จะเป็นการยอมรับพันธะกรณีที่เกิดจากความผิดพลาดของยูเนสโก อันจะนำมาซึ่งความสูญเสียของประเทศชาติ
การถอนตัวจากอนุสัญญาสากลนั้น ความจริงเป็นอำนาจสิทธิขาดของรัฐภาคี โดยผ่านตัวแทนหรือคณะผู้แทนของรัฐภาคี โดยแถลงในที่ประชุมหรือยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน ส่วนเหตุผลที่รัฐบาลไทยใช้ประกอบการถอนตัวหรือความตื้นลึกหนาบางที่จะแถลง ให้ประชาชนทราบเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของรัฐบาลไทย
โดยที่ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่คดีประสาทพระวิหารกำลังอยู่ระหว่างการ พิจารณาการตีความคำพิพากษาเดิมเมื่อ ค.ศ. ๑๙๖๒ จึงยังเป็นสาระที่มีสถานะเป็นปัญหา “sub judice” ของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ จึงมิบังควรที่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือแม้แต่ผู้พิพากษาในคดีดังกล่าว ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมาย หรือนักนิติศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ จะลงความเห็นหรือวิพากวิจารณ์ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาสิ้นเสร็จเด็ดขาด ทั้งนี้ เพราะการลงความเห็นก่อนกาลเป็นการสุ่มเสี่ยงในการหมิ่นอำนาจศาล หรือละเมิดจริยธรรมของนักกฎหมายระหว่างประเทศ นักนิติศาสตร์ผู้คุ้นเคยกับจริยธรรมในการประพฤติปฏิบัติ ย่อมต้องเคารพและปฏิบัติตามระเบียบวินัยของวงการอย่างเคร่งครัด
ข้าพเจ้าจึงขอเรียนชี้แจงในฐานะอดีตที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญขององค์การยู เนสโกในเรื่องมรดกโลก กรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติถึงสองสมัยเป็นเวลา ๑๐ ปี เป็นผู้เสนอรายงานพิเศษ และประธานคณะกรรมการร่างกฎหมายที่ได้พิจารณาร่างอนุสัญญาต่าง ๆ รวมทั้งข้อบทอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความรับผิดชอบของรัฐ


ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล
๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๔